เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงโด่งดังอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย การเดินทางไปเที่ยว ณ เกาะหลีเป๊ะนั้นคุณต้องนั่งเครื่องบินไปลงหาดใหญ่ และต้องต่อรถเพื่อไปขึ้นเรือ ณ ท่าเรือปากบารา จ.สตูล โดยจะเป็นเรือ Speed boat เท่านั้น ระหว่างทางไปเกาะหลีเป๊ะ คุณจะพบกับจุดถ่ายรูป 2 จุด เรือจะจอดแวะให้คุณได้ชมบรรยากาศ โดยจุดแรก คือ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีค่าเข้า 40 บาท ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นเกาะซึ่งใช้คุมขังนักโทษมาก่อน บรรยากาศโดยรอบสวยงามมาก เงียบสงบ หาดทรายสีขาวสวยสะอาดตา ตัดกับสีฟ้าใสของน้ำทะเล ราวกับสวรรค์บนดินอย่างไงอย่างงั้น และจุดถ่ายรูปชมวิวต่อมา คือเกาะไข่ ซึ่งเกาะไข่นี้เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสตูลเลยทีเดียว เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยเห็นรูปผ่านตากันมาบ้าง โดยสัญลักษณ์นั้นก็คือ ซุ้มประตูหินขนาดใหญ่อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ มีความเชื่อกันว่าถ้าใครมาเที่ยวกับคนรัก และอยากให้ความรักยืนยาวตราบจนฟ้าดินสลาย ต้องมาลอดซุ้มหินแห่งนี้ พักผ่อนไม่นานนัก เรือก็จะพาเรามุ่งสู่เกาะหลีเป๊ะ โดยเทียบท่าบริเวณ หาดพัทยา หรือ บันดาหยา หาดพัทยาในตอนกลางคืนจะเต็มไปด้วยปาร์ตี้ ผู้คนที่ชอบชีวิตกลางคืนก็จะออกมาจอย สนุกสนานกัน เกาะหลีเป๊ะมีหาดทั้งหมด 3 หาดด้วยกัน ก็คือ หาด Sunset หาด Sunrise และหาดพัทยา หรือบันดาหยา
ณ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล มีมุมให้เราได้พักผ่อนหย่อนใจรวมทั้งมีกิจกรรมอันหลากหลายให้เลือกตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น การนอนรับลมริมหาด , พายเรือคายัค , ดำน้ำดูปะการังซึ่งกิจกรรมนี้นับว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ คุณไม่จำเป็นต้องดำน้ำลึก เพราะแค่ดำน้ำหน้าหาดก็ฟินสุดๆ แล้ว น้ำใสมาก เหมือนกับแหวกว่ายอยู่ในกระจกอย่างไงอย่างงั้น ปะการังใหญ่น้อยก็มีความอุดมสมบูรณ์ มีปลาสีสันสดใสนานาชนิด แน่นอนว่ามีปลานีโม่ขวัญใจของสาวๆ อีกด้วย
ถ้าคุณติดใจการดำน้ำจากหน้าหาดเราขอแนะนำให้คุณไปทริปดำน้ำจริงๆ จังๆ เลยดีกว่า เพราะคุณจะได้ชมปะการังซึ่งมีความสวยงามมาก นั่นก็คือปะการัง 7 สี ปะการังอ่อน ซึ่งมีความงดงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว ใต้ท้องทะเลที่คุณจะได้ไปสัมผัสนั้นมันมีความมหัศจรรย์อันคาดไม่ถึงรออยู่ ถ้าคุณได้ไปดูด้วยตาตัวเองแล้วล่ะก็ คุณจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกาะหลีเป๊ะ ถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมายขนาดนี้ และถ้าเรามีความสุขกับการพักผ่อนแล้วก็อย่าลืมอนุรักษ์รักษาไว้เพื่อให้คงอยู่คู่โลกของเราไปอีกนานนะคะ